โชคดีที่เธอมีจิตใจที่เมตตากรุณาอย่างลึกซึ้ง เมื่อเธอโตขึ้นผ่านประสบการณ์ต่างๆ ทำให้เธอรู้สึกว่าชีวิตคือความทุกข์ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นเรื่องลวงตาและไม่จริง และการจะได้เกิดเป็นมนุษย์นั้นยากยิ่ง พึงใช้ชาติภพความเป็นมนุษย์ในการปฏิบัติธรรมเพื่อยกระดับตัวเองให้สูงขึ้น
เมื่อสี่หรือห้าปีที่แล้ว เธอเริ่มเปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธและกลายเป็นชาวพุทธผู้เคร่งครัด เธอรู้ถึงความทุกข์ทรมานของอบายภูมิสามและการเวียนว่ายตายเกิดในหกภพภูมิ จึงศึกษาธรรมในแนวทางสุขาวดีภาวนาพุทธนาม - เพียรภาวนาว่า นะโม อมิตาภพุทธ
ความไม่เที่ยงมักมาในเวลาที่คาดไม่ถึงเสมอ
ฤดูใบไม้ผลิที่แล้ว หวังอวี้ ซึ่งมุ่งมั่นที่จะอุทิศตนเพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมอันเป็นมรดกของชาติ และคิดมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อสวัสดิการสาธารณะต่างๆ จู่ๆ ก็พบว่าเธอเป็นมะเร็งเต้านมและเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก
แต่เธอไม่พรั่นพรึง เธอได้ปฏิญาณต่อหน้าพระพุทธเจ้าว่า หากสิ้นอายุขัยก็จะทูลขอพระพุทธองค์ให้ทรงนำพาไปยังสุขาวดีพุทธเกษตร เพื่อไปปฏิบัติธรรมที่นั่นไม่ตกต่ำสู่อบายอีก
เมื่ออาการของเธอแย่ลง เธอจึงล้มเลิกความคิดที่จะหาทางรักษาและมาที่บ้านพักผู้ปฏิบัติธรรมในวาระสุดท้าย เพื่อแสวงหาที่ตายอันเหมาะสม นี่เป็นทางเลือกที่ฉลาดที่สุดในชีวิตของเธอและยังเป็นกุศลมูลที่ช่วยชักนำเป็นพรอันยิ่งใหญ่และกรรมดีอันยิ่งใหญ่อีกด้วย
เป็นครั้งสุด้ทายในชีวิตที่เธอได้รับการดูแลที่อุ่นใจที่สุด ปลดวางภาระทางจิตใจทุกรูปแบบพักฟื้นในพระหัตถ์ของพระพุทธเจ้าและเฝ้ารอวันที่ความตายจะมาถึง
เมื่อเวลา 14:53 น. วันที่ 7 มกราคม ท่ามกลางเสียงสวดพระนามพระพุทธะนะโมอมิตาภพุทธๆ ๆ ๆ หวังอวี้ แย้มยิ้ม ดวงตาของเธอแจ่มใสมาก ใบหน้าของเธอสวยงามและดูน่าเลื่อมใส และบริสุทธิ์กว่าที่เคยเป็นมา
นี่คือ ความตายที่งดงาม คือความตายของผู้ที่ได้ภาวนา แม้แต่ผู้ร่วมภาวนาก็พลอยแย้มยิ้มยินดี เพราะเชื่อมั่นว่าเธอจะได้ไปดีแน่นนอน
ใบหน้าของคนตายในวาระสุดท้าย ย่อมบอกได้
...................
ในลิ้งนี้ คือภาพของหวังอวี้ณ วาระสุดท้าย
http://www.dazhouxian.com/wap/news/?2132.html
Cr.คลังพุทธศาสนา
~~~~~~~~~~