เพื่อยกระดับความรู้ สู่สังคมอุดมป้ญญา

โศกาลัยจากเหตุกราดยิงที่หนองบัวลำภู

0

 


ขอแสดงความเสียใจเหตุกราดยิง 

ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์.นากลาง.หนองบัวลำภู"

วันที่ตุลาคม 2565 

 

~~~~~~~~~~~


พระครูปลัดปัญญาวรวัฒน์,.ดรผู้อำนวยการหลักสูตรสันติศึกษาและผู้อำนวยการวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจรกล่าวว่า 


ในนามหลักสูตรสันติศึกษามจรขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวและญาติมิตรทุกคนต่อความสูญเสียบุคคลผู้เป็นที่รักในครั้งนี้และไว้อาลัยแด่ดวงวิญญาณบริสุทธิ์ทุกดวงที่ต้องเดินทางจากพ่อแม่พี่น้องอันเป็นที่รักโดยไม่ทราบสาเหตุแห่งแรงจูงใจว่าเพราะเหตุใดจึงถูกกระทำเช่นนี้



#ชี้ความอ่อนแอที่มอบแด่คนที่อ่อนเยาว์สังคมป่วยคนป่วยจะช่วยกันเยียวยาอย่างไร?


หลายคนเข้าใจว่าคนที่กล้าหาญเด็ดเดี่ยวและกร้าวแกร่งเท่านั้นจึงจะสามารถแสดงออกซึ่งความรุนแรงโดยการเดินเข้าไปในโรงเรียนอนุบาลแล้วใช้ปืนกราดยิงเด็กที่กำลังพักผ่อนนอนหลับพร้อมทั้งยิงและกรีดร่างครูผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์และผู้คนจำนวนมากที่ไม่มีโอกาสจะต่อสู้หรือหลบหนี


ในความเป็นจริงแล้วผู้ก่อการก่อเหตุดังกล่าวนั้นคือบุคคลที่อ่อนแอและไร้พลังอย่างถึงที่สุดแล้ว” จึงได้ตัดสินใจนำเอาความรุนแรงออกมากลบความอ่อนแอที่กำลังเกาะกินจิตใจที่กำลังเจ็บป่วยและทุกข์ทรมานความอ่อนแอของจิตใจที่มิมีโอกาสที่จะยืนหยัดต่อสู้กับกิเลสที่เข้ามาท้าทายจนเป็นเหตุแห่งการก่อเหตุที่นำมาซึ่งความสูญเสียต่อชีวิตและสะท้อนความเป็นไปของสังคมที่เจ็บป่วยในหลายๆด้านอยู่ในขณะนี้

สติเตสังนิวารณังสติเป็นตัวกั้นกิเลสเครื่องเศร้างหมองทั้งหลาย


ยอมรับเถิดว่าระบบการศึกษาที่มุ่งตอบโจทย์วิชาชีพแต่หลงลืมวิชาชีวิตจึงทำให้คนฉลาดแต่ขาดความสุขสงบเย็นเมื่อเผชิญหน้ากับแรงเหวี่ยงของตัณหาที่ไม่สมความอยากจนก่อให้เกิดความแปลกแยกกับสังคมหรือพลาดหวังผิดหวังกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งก็พร้อมจะแสวงหาสอ่งใดสิ่งหนึ่งมารองรับเพื่อระบายพลังแห่งความทุกข์ความเจ็บปวดที่ตัวเองกำลังเผชิญ


การศึกษาข้างนอกที่มุ่งแสวงหากินกามและเกียรติจึงไม่พอที่จะตอบโจทย์ความเป็นไปของชีวิตหากควรมุ่งพัฒนาการศึกษาข้างในที่มุ่งพัฒนาตัวรู้มาก่อนความรู้ก็จะทำให้สามารถยังยั้งชั่งใจก่อนที่จะตัดสินใจกระทำสอ่งใดสิ่งหนึ่งโดยมิได้สนใจผลลัพธ์ที่จะตามมา



#ภาพจำที่เลวร้ายอาจจะกลายเป็นแบบอย่างของการใช้ความรุนแรง

ภาพจำของการกราดยิงในโรงเรียนที่เกิดขึ้นในต่างประเทศรวมถึงภาพของทหารที่ใช้อาวุธยิงผู้คนในห้างที่โคราชอาจจะกลายเป็นอย่างของการปฏิบัติที่เลวร้าย(Bad Practice) ที่ช่วยเป็นทางเลือกในการระบายอารมณ์และความรู้สึกต่อกลุ่มคนที่ง่ายต่อการรองรับความเจ็บปวดและบาดแผลทางใจที่ตัวเองได้รับมาและจะน่าเศร้ายิ่งขึ้นไปอีกหากครั้งนี้จะแรงพลักให้เกิดเหตุร้ายในโอกาสต่อไป


ยิ่งอยู่ใกล้ยุทธปัจจัยที่เอื้อต่อความรุนแรงยิ่งต้องแสวงหาหนทางป้องกันอย่างรอบด้าน

กรณีทหารที่โคราชใช้อาวุธสงครามกราดยิงผู้คนในห้างและนอกห้างจนมาถึงกรณีของอดีตตำรวจใช้อาวุธปืนที่ตัวเองเข้าถึงอย่างง่ายดายนั้นก็ยิ่งทำให้อารมณ์และความรู้สึกของคนในสังคมเริ่มมีคำถามตามมาว่าในอนาคตจะมั่นใจได้อย่างไรว่าผู้ที่สามารถครอบครองอาวุธหรือเข้าถึงอาวุธสงครามเหล่านั้นจะไม่ก่อเหตุขึ้นอีกในอนาคต


ผู้ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นเหล่านี้ควรจะมีมาตรการป้องกันอย่างไรในอนาคตอันจะทำให้เกิดความมั่นใจและประกันความปลอดภัยแก่กลุ่มคนอื่นๆในสังคมที่ไม่มีโอกาสหรืออำนาจในการเข้าถึงอาวุธเหล่านั้น


#สังคมป่วยคนป่วยพระสงฆ์ช่วยเยียวยา

สถานการณ์การสังหารหมู่ครั้งนี้มีกลุ่มคนไม่น้อยที่หันกลับมาตั้งคำถามกับพระพุทธศาสนารวมถึงองค์กรพระพุทธศาสนาที่อยู่เคียงคู่กับสังคมไทยมาช้านานว่าจะเข้ามาช่วยอย่างไร??

ระยะสั้นคือการช่วยเหลือด้านพิธีกรรมทางศาสนาจัดพิธีสวดอภิธรรมศพและพิธีฌาปานกิจร่วมถึงการให้กำลังใจและนำธรรมะไปช่วยกล่อมเกลาจิตใจครอบครัวผู้สูญเสีย


ในระยะยาวคือการวิเคราะห์สถานการณ์ทางสังคมรวมถึงผู้คนในสังคมที่กำลังมีความเจ็บป่วยทางจิตใจโลกของวัตถุนิยมที่ถูกฉาบทาด้วยโลกธรรมการแย่งชิงแข่งขันความเห็นแก่ตัวการทุจริตยาเสพติดความว้าเหว่เปลี่ยวเหงาแปลกแยกขาดภูมิคุ้มกันทางใจเมื่อเผชิญหน้ากับวิกฤตการณ์จึงมิอาจวางใจยอมรับและมองโลกในแง่ร้ายกลายเป็นแรงผลักให้ก่อเหตุ

ทุกข์ของคนจึงกลายเป็นโอกาสของธรรมที่พระสงฆ์หรือองค์กรศาสนาจักได้นำมาวิเคราะห์ความเป็นมาเป็นไปของจุดเจ็บปวด(Painpoint) ภายในจิตใจแล้วเสนอธรรมะที่ผ่านการออกแบบให้เหมาะสมกับวิถีความเป็นไปของผู้คนในสังคมโลกเพื่อให้โลกไม่ช้ำและให้ธรรมได้ช่วยคุ้มครองผู้คนในสังคมโลก



#มาตรการรองรับที่พึงประสงค์

ระยะสั้น]

จำเป็นต้องเยียวยาทั้งร่างกายและจิตใจครอบครัวเด็กๆและผู้สูญเสียจากกองทุนต่างๆในขณะที่พระสงฆ์วัดวาอารามก็เข้ามาช่วยจัดพิธีกรรมทางศาสนานำหลักธรรมมากล่อมเกลาญาติผู้สูญเสีย


ระยะกลาง]

ก็ควรเตรียมการในการวางมาตรการต่างๆในช่วงนี้จนถึงปีใหม่ให้แก่โรงเรียนต่างๆที่อาจจะนำไปสู่เหตุร้ายที่ไม่คาดฝันการจัดทำคู่มือเพื่อเตือนให้ครูและเด็กได้ตระหนักรู้และหาทางออกต่อสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันที่อาจจะขึ้นโดยมิคาดฝัน


ระยะยาว]

ควรเปิดพื้นที่ให้มีการศึกษาเพื่อสันติภาพ(Education for Peace) เพื่อเสริมสร้างสันติวัฒนธรรมในสถานศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงมหาวิทยาลัยอันเป็นการกระตุ้นเตือนให้เห็นถึงพิษภัยของความขัดแย้งที่ขยายตัวเป็นความรุนแรงทั้งทางตรงและเชิงโครงสร้างและเฝ้ารอการก่อเหตุในช่วงวัยและเวลาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตและผลเชิงบวกต่อความรักและการเคารพต่อชีวิตและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้อื่น


อย่างไรก็ตามการหาทางออกเพื่อบริหารจัดการปัญหาเหล่านี้อย่างถูกต้องและเหมาะสมในทุกมิตินั้นขออย่าให้อยู่บนฐานของความเกลียดชังหรือเคียดแค้นต่อผู้ก่อการรวมถึงญาติมิตรที่เกี่ยวข้องเพราะถึงอย่างไรผู้ก่อการก็ได้ตัดสินใจใช้ปืนแก้ไขปัญหาตัวเองด้วยเข้าใจผิดคิดว่าเป็นการแก้ปัญหาในชาตินี้แล้วก็ตาม


ขอให้เราท่านทั้งหลายได้ช่วยเหลือกันตามสมควรแก่สถานะทั้งการจัดพิธีแก่ผู้เสียชีวิตบริจาคเลือดแก่ผู้บาดเจ็บใช้กองทุนเยียวยาให้กำลังใจพ่อและญาติๆที่สูญเสียสวดมนต์ทำจิตภาวนาแผ่บุญบารมีให้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องป้องกันภัยและจัดวางระบบการสร้างภูมิคุ้มกันในระยะต่างๆโดยนำเอาเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นแล้ในไทยและต่างประเทศและครั้งนี้มาเป็นฐานในการถอดบทเรียนศึกษาเรียนรู้ป้องกันแก้ไขก็จะทำชีวิตชุมชนและสังคมมีร่มเย็นและเป็นสันติสุขสืบไป



ที่มา: TheBuddh.com

 

~~~~~~~~~~~~

แสดงความคิดเห็น

0ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น (0)
ฉันคือพลังงานจลน์ พลวัตเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น..