ในสังยุตตนิกาย มหาวารวรรค ปฐมฉิคคฬสูตรที่ ๗ แสดงว่า ‘การเกิดเป็นมนุษย์ยาก’
อุปมาเหมือนคนโยนแอกซึ่งมีช่องเดียวลงไปในมหาสมุทร เต่าตาบอดที่อยู่ในมหาสมุทรนั้น ล่วง ๑๐๐ ปี ถึงจะโผล่ขึ้นคราวหนึ่ง และเมื่อล่วงร้อยๆ ปี จึงจะโผล่ขึ้นคราวหนึ่งนั้น การที่เต่าจะสอดคอให้เข้าไปในแอกซึ่งมีช่องเดียวนั้นได้บ้างก็เฉพาะในบางครั้งบางคราวเท่านั้น
“นี่คือความยากของการเกิดเป็นมนุษย์”
ส่วนข้อความในทุติยฉิคคฬสูตรที่ ๘ ยิ่งแสดงความยากกว่านั้น โดยอุปมาว่า ไม่ใช่แต่มหาสมุทรเท่านั้นแต่มหาปฐพี คือแผ่นดินระหว่างจักรวาล ก็ยังมีน้ำเต็มหมด เมื่อโยนแอกซึ่งมีช่องเดียวลงแล้ว ลมทิศตะวันออกยังพัดแอกนั้นไปทางทิศตะวันตก ลมทิศตะวันตกก็พัดแอกนั้นไปยังทิศตะวันออก ส่วนลมทิศเหนือก็พัดแอกนั้นไปทางทิศใต้ ส่วนลมทิศใต้ก็พัดแอกนั้นไปทางทิศเหนือ ล่วงร้อยๆ ปี เต่าจึงจะโผล่ขึ้นมาคราวหนึ่ง ถ้าแอกนั้นยังไม่เน่าและน้ำในทะเลยังไม่แห้ง การที่เต่าจะโผล่ขึ้นมาสอดคอเข้าไปในแอกซึ่งมีช่องเดียวนั้นเป็นการยากยิ่ง
ตอนท้ายของพระสูตรนี้ พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
“ฉะนั้น ภิกษุทั้งหลาย การได้ความเป็นมนุษย์เป็นของยาก, พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า จะอุบัติในโลกเป็นของยาก, ธรรมวินัยที่พระตถาคตประกาศแล้ว จะรุ่งเรืองในโลกก็เป็นของยาก”
~~~~~-~~~~