เพื่อยกระดับความรู้ สู่สังคมอุดมป้ญญา

ทางแห่งความฉิบหาย(อบายมุข)

0

ทางแห่งความฉิบหาย ทางแห่งความเสื่อม สาเหตุให้ถึงความเสื่อม มี หมวด คือ

  • อบายมุข 4
  • อบายมุข 6


อบายมุข 4

ได้แก่ เป็นนักเลงหญิง เป็นนักเลงสุรา เป็นนักเลงการพนัน และคบคนชั่วเป็นมิตร



อบายมุข 6

ทางของความเสื่อม ทางแห่งความพินาศ เหตุย่อยยับแห่งโภคทรัพย์ ได้แก่ ดื่มน้ำเมา เที่ยวกลางคืน เที่ยวดูการเล่น เล่นการพนัน คบคนชั่วเป็นมิตร และเกียจคร้านการทำงาน


ติดสุราและของมึนเมามีโทษ อย่าง คือ

  1. ความเสื่อมทรัพย์อันผู้ดื่มพึงเห็นเอง
  2. ก่อการทะเลาะวิวาท
  3. เป็นบ่อเกิดแห่งโรค
  4. เป็นเหตุเสียชื่อเสียง
  5. เป็นเหตุไม่รู้จักละอาย
  6. ทอนกำลังปัญญา


ชอบเที่ยวกลางคืนมีโทษอย่าง คือ

  1. ผู้นั้นชื่อว่าไม่คุ้มครองไม่รักษาตัว
  2. ผู้นั้นชื่อว่าไม่คุ้มครองไม่รักษาบุตรภรรยา
  3. ผู้นั้นชื่อว่าไม่รักษาทรัพย์สมบัติ
  4. ผู้นั้นเป็นที่ระแวงของคนอื่น
  5. คำพูดอันไม่เป็นจริงในที่นั้นๆย่อมปรากฏในผู้นั้น
  6. อันเหตุแห่งทุกข์เป็นอันมากแวดล้อม


ชอบเที่ยวดูการละเล่น มีโทษโดยการงานเสื่อมเสียเพราะใจกังวล คอยคิดจ้องกับเสียเวลาเมื่อไปดูสิ่งนั้นๆ ทั้งกรณ คือ

  1. รำที่ไหนไปที่นั่น
  2. ขับร้องที่ไหนไปที่นั่น
  3. ดนตรีที่ไหนไปที่นั่น
  4. เสภาที่ไหนไปที่นั่น
  5. เพลงที่ไหนไปที่นั่น
  6. เถิดเทิงที่ไหนไปที่นั่น


ติดการพนัน มีโทษ อย่าง คือ

  1. ผู้ชนะย่อมก่อเวร
  2. ผู้แพ้ย่อมเสียดายทรัพย์ที่เสียไป
  3. ความเสื่อมทรัพย์ในปัจจุบัน
  4. ถ้อยคำของคนเล่นการพนันซึ่งไปพูดในที่ประชุมฟังไม่ขึ้น
  5. ถูกมิตรอมาตย์หมิ่นประมาท
  6. ไม่มีใครประสงค์จะแต่งงานด้วย เพราะเห็นว่าชายนักเลงเล่นการพนัน ไม่สามารถจะเลี้ยงภรรยา


คบคนชั่ว มีโทษโดยนำให้กลายไปเป็นคนชั่วอย่างคนที่ตนคบ ทั้ง ประเภท คือ

  1. นำให้เป็นนักเลงการพนัน
  2. นำให้เป็นนักเลงเจ้าชู้
  3. นำให้เป็นนักเลงเหล้า
  4. นำให้เป็นคนลวงผู้อื่นด้วยของปลอม
  5. นำให้เป็นคนโกงเขาซึ่งหน้า
  6. นำให้เป็นคนหัวไม้


เกียจคร้านการงาน มีโทษโดยทำให้ยกเหตุต่างๆ เป็นข้ออ้างผัดเพี้ยนไม่ทำการงาน โภคะใหม่ก็ไม่เกิดโภคะที่มีอยู่ก็หมดสิ้นไป คือให้อ้างไปทั้ง กรณี คือ

  1. หนาวนักแล้วไม่ทำการงาน
  2. ร้อนนักแล้วไม่ทำการงาน
  3. เย็นไปแล้วไม่ทำการงาน
  4. ยังเช้านักแล้วไม่ทำการงาน
  5. หิวนักแล้วไม่ทำการงาน
  6. อิ่มนักแล้วไม่ทำการงาน


อบายมุขทั้งหมดนี้ หากประพฤติเข้าแล้วก็เป็นเหตุให้เกิดความฉิบหาย ให้เกิดความเสื่อมเสียแก่ชีวิตร่างกายได้เหมือนกันทุกข้อฯ 



เรื่องราวประกอบ

พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า 

“..ดูกรคฤหบดีบุตรอริยสาวกละกรรมกิเลสทั้ง ได้แล้วไม่ทำบาปกรรมโดยฐานะ และไม่เสพทางเสื่อมแห่งโภคะ อริยสาวกนั้นเป็นผู้ปราศจากกรรมอันลามก ๑๔ อย่าง นี้แล้วย่อมเป็นผู้ปกปิดทิศ ย่อมปฏิบัติเพื่อชำนะโลกทั้งสอง และเป็นอันอริยสาวกนั้นปรารภแล้วทั้งโลกนี้และโลกหน้า เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก อริยสาวกนั้นย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์


อริยสาวกย่อมไม่เสพทางเสื่อมแห่งโภคะ ๖ เป็นไฉน?

“..ดูกรคฤหบดีบุตรการประกอบเนืองๆ ซึ่งการดื่มน้ำเมาคือสุราและเมรัย อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาทเป็นทางเสื่อมแห่งโภคะประการการประกอบเนืองๆ ซึ่งการเที่ยวไปในตรอกต่างๆ ในกลางคืนเป็นทางเสื่อมแห่งโภคะประการ การเที่ยวดูมหรสพเป็นทางเสื่อมแห่งโภคะประการ การประกอบเนืองๆซึ่งการพนันอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาทเป็นทางเสื่อมแห่งโภคะประการ การประกอบเนืองๆ ซึ่งการคบคนชั่วเป็นมิตรเป็นทางเสื่อมแห่งโภคะประการ การประกอบเนืองๆ ซึ่งความเกียจคร้านเป็นทางเสื่อมแห่งโภคะประการ  


~~~~~~~~~

แสดงความคิดเห็น

0ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น (0)
ฉันคือพลังงานจลน์ พลวัตเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น..