ท่านให้เพ่งพิจารณาซากศพที่ขึ้นอืดบวมพองตรงไหนเมื่อกำหนดจดจำรูปได้ชัดเจนดีแล้วให้หลับตานึกเห็นภาพนั้นพร้อมกับภาวนาว่า..
หลักการเพ่งพิจารณา10 ประการ
- อุทุมาตกอสุภ
- วินีลกอสุภ
- วิปุพพกอสุภ
- วิฉิททกอสุภ
- วิกขายิตตกอสุภ
- หตวิกขิตตกอสุภ
- โลหิตตกอสุภ
- ปุฬุวกอสุภ
- วิกขิตตกอสุภ
- อัฏฐิอสุภ
1. อุทุมาตกอสุภพิจารณาซากศพที่ขึ้นอืด
ให้เพ่งพิจารณาซากศพที่ขึ้นอืดบวมพองตรงไหนเมื่อกำหนดจดจำรูปได้ชัดเจนดีแล้วให้หลับตานึกเห็นภาพนั้นพร้อมกับภาวนาว่า"อุทุมาตะกังปะฏิกุลัง" ภาวนาและนึกให้เห็นสภาพว่า"ซากศพขึ้นอืดพองน่าเกลียด" อย่างนี้ตลอดไปถ้ายังจำภาพนั้นไม่ได้ให้ลืมตาพิจารณาดูอีกแล้วหลับตาภาวนา"อุทุมาตะกังปะฏิกุลัง" นึกว่า"ซากศพขึ้นอืดพองน่าเกลียด" เรื่อยไปจนกระทั่งเกิด"อุคคหนิมิต" คือนิมิตติดตาหลับตาก็ยังเห็นซากศพนั้นพองขึ้นๆจนติดตาติดใจจะนึกเมื่อไรก็เห็นภาพนั้นได้ทันที
เมื่อพิจารณาเห็นภาพนั้นติดตาจนชินอยู่ในความทรงจำดับนี้แล้วจะเกิด"ปฏิภาคนิมิต" คือนิมิตเทียบเคียงขึ้นภาพซากศพที่พองขึ้นจะผิดไปจากเดิมเปลี่ยนไปเหมือนกับคนอ้วนพีที่มีผิวพรรณผ่องใสกำลังนอนหลับอยู่
2. วินีลกอสุภพิจารณาซากศพที่มีสีต่างๆ
ให้เพ่งพิจารณาสีของซากศพนั้นว่าสีอะไรโดยปกติจะมีสีแดงสีเขียวและสีขาวปนกันให้หลับตาภาวนา"วินีละกังปะฎิกุลัง" นึกเห็นว่า"สีต่างๆนั้น่าเกลียด" นิมิตติดตาจะมีสีแดงเขียงขาวคละกันเป็นสีพร้อยๆ
3. วิปุพพกอสุภพิจารณาซากศพที่มีน้ำเหลืองน้ำหนองไหล
ให้เพ่งพิจารณาซากศพที่มีน้ำหนองไหลหลับตาภาวนา"วิปุพพกังปะฎิกุลัง" นึกว่า"น้ำหนองที่ไหลนั้นน่าเหลียด" นิมิตติดตาจะเห็นน้ำหนองไหลอยู่ไม่ขาดสาย
ส่วนนิมิตเทียบเคียงจะปรากฎน้ำหนองนั้นนิ่งอยู่ไม่เหมือนติดตา
4. วิฉิททกอสุภพิจารณาซากศพที่เป็นท่อนเล็กท่อนใหญ่
ให้เพ่งพิจารณาดูซากศพที่ถูกสับเป็นท่อนเล็กท่อนใหญ่หลับตาภาวนาว่า"วิฉิททกะกังปะฎิกุลัง" นึกว่า"ซากศพที่สับเป็นท่อนๆนี้น่าเกลียดนิมิตติดตาจะเป็นซากศพนั้นขาดเป็นท่อนๆไปทั้งตัว
นิมิตเทียบเคียงจะเห็นซากศพมีอวัยวะอยู่ครบถ้วนบริบูรณ์
5. วิกขายิตตกอสุภพิจารณาซากศพที่ถูกสัตว์กัดกิน
ให้เพ่งพิจารณาดูซากศพที่ถูกสัตว์ต่างๆกัดกินจนเป็นรอยแหว่งเว้าในที่ต่างๆขณะพิจารณาให้ภาวนาว่า"วกขายิตตะกังปะฎิกุลัง" และนึกว่า"รอยที่ถูกสัตว์กัดกินนั้นน่าเกลียด" นิมิตติดตาที่ปรากฏคือเป็นรูปซากสัตว์กัดกินไปทั้งตัว
ส่วนนิมิตเทียบเคียงปรากฎเป็นรูปซากศพที่มีร่างกายสมบูรณ์
6. หตวิกขิตตกอสุภพิจารณาซากศพที่ถูกสับเป็นท่อนๆ
ให้นำซากศพที่ถูกสับเป็นท่อนๆมาวางเรียงกันท่อนละ1 นิ้วแล้วเพ่งพิจารณาภาวนาว่า"หะตะวิกขิตตะกังปะฎิกุลัง" นึกว่า"รอยสับเป็นท่อนๆนั้นน่าเกลียด" นิมิตติดตาที่ปรากฏคือเห็นรอยแผลศพถูกสับฟัน
นิมิตเทียบเคียงนั้นปรากฏเป็นรูปร่างสมบูรณ์ไม่มีริ้วรอยที่ถูกสับฟัน
7. โลหิตตกอสุภพิจารณาซากศพที่มีเลือดไหล
ให้พิจารณาซากศพที่มีเลือดไหลขณะพิจารณาว่า"โลหิตตะกังปะฎิกุลัง" นึกว่า"เลือดที่ไหลนั่นน่าเกลียด" นิมิตติดตาเห็นเป็นเลือดไหลคล้ายผาแดงที่ถูกลมพัดปลิวไสวอยู่
ส่วนนิมิตเทียบเคียงนั้นปรากฎเป็นสีแดงนิ่งสงบอยู่โดยไม่เคลื่อนไหว
8. ปุฬุวกอสุภพิจารณาซากศพที่มีหนอน
ให้พิจารณาซากศพคนที่ตายมาแล้วสองสามวันจนมีหนอนคลานยั้วเยี้ยอยู่บนซากศพนั้นภาวนาว่า"ปุฬุวะกังปะฎิกุลัง" และนึกว่า"ตัวหนอนที่อยู่บนซกศพนั้นน่าเกลียด" นิมิตติดตาคือปรากฎหมู่หนอนชอนไชเป็นกลุ่มๆ
นิมิตเทียบเคียงจะปรากฎคล้ายกองสำลีที่กองเฉยๆ
9. วิกขิตตกอสุภพิจารณาซากศพที่กระจัดกระจายอยู่ห่างกัน
ให้นำซากศพที่อยู่ห่างกันมารวมกันเข้าแล้วเพ่งพิจารณาภาวนาว่า"วิกขิตะกังปะฎิกุลัง" แล้วนึกว่า"ซากศพที่เรียงรายที่น่าเกลียด" นิมิตติดตาจะปรากฎซากศพที่เรี่ยรายเป็นแห่งๆ
ส่วนนิมิตเทียบเคียงจะเห็นซากศพที่สมบูรณ์
10. อัฏฐิอสุภพิจารณาซากศพที่เป็นกระดูก
ให้เอาซากศพที่เป็นกระดูกมีเนื้อเลือดหนังเอ็นหรือจะเป็นโครงกระดูกล้วนๆก็ได้มาเพ่งพิจารณาพร้อมกับภาวนาว่า"อิฏฐิกังปะฎิกุลัง" และนึกว่า"กระดูกนั้นน่าเกลียด" อุคคหนิมิตหรือนิมิตติดตาในอสุภกองนี้จะปรากฎกระดูกเป็นแห่งๆเคลื่อนไหวไปมา
ส่วนปฎิภาคนิมิตคือนิมิตเทียบเคียงจะปรกาฎสภาพของกองกระดูกที่วางเฉยอยู่เป็นกองๆ.
ที่มา: https://oumboon.com/news/อสุภกรรมฐาน-10-ประการ