เพื่อยกระดับความรู้ สู่สังคมอุดมป้ญญา

ชีวิตเรามีแค่สี่พันสัปดาห์

0



เนื้อหาโดยสรุป..

1. ชีวิตเรามี
productivity มากเกินไป

แต่หารู้ไม่ว่า..ยิ่งทำตัวมีผลิตภาพ(productive) เรายิ่งเร่งยิ่งวิตกกังวลมากกว่าเดิมการพยายามยิ่งรีบเคลียร์กองงานยิ่งมีมากกว่าเดิม


2. ปัจจุบันเทคโนโลยีดีขึ้นมากกว่าเดิมเร็วมากขึ้น

ความใจร้อนควรจะลดลง..แต่มันกลับเพิ่มขึ้นเพราะความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเหมือนพาเราไปในจุดที่ไร้ขีดจำกัดเมื่อเร็วแล้วก็คิดว่ามันเร็วได้อีก


3. ผู้เขียนคือคุณOliver Burkeman นั่งคิดอยู่ที่ม้านั่งในสวนใกล้บ้าน

และตระหนักได้ว่า..ไม่มีวิธีไหนที่จะควบคุมสถานการณ์จัดการภาระทุกอย่างไม่มีวิธีไหนทำทุกอย่างได้เมื่อตระหนักได้ก็รู้สึกสงบมากขึ้น


4. จงยอมรับว่าเรามีเวลาทำสิ่งสำคัญไม่มากขนาดนั้น เราจะไม่มีเวลาพอสำหรับทุกอย่างที่เราเคยใฝ่ฝัน


5. การจัดการเวลามีคามขัดแย้งกันของข้อจำกัด’(paradox of limitation)

นั่นคือ..ยิ่งคุณเชื่อว่าตนเองจะสามารถจัดทุกอย่างเข้าตาราง’ ได้สำเร็จมากเท่าไหร่คุณย่อมจะรับภาระหน้าที่ใส่ตนเองเพิ่มมากขึ้นเท่านั้นหรือ ยิ่งคุณพยายามจัดการเวลาของคุณโดยเป้าหมายเพื่อให้ควบคุมเวลาได้อย่างเต็มที่ ชีวิตคุณจะยิ่งเคร่งเครียดว่างเปล่าและน่าหงุดหงิดท้อแท้มากขึ้น


6. เมื่อรู้ว่าเวลามีไม่เพียงพอจงเลือกสิ่งที่อยากทำอย่างมีสติ 

เลือกว่า..จะมุ่งความสนใจไปที่อะไรและสิ่งไหนที่ควรมองข้าม


7. อีเมลคือหนึ่งในตัวอย่างที่อธิบายความมีผลิตภาพของเราได้ดี

นั่นคือ..ยิ่งเรากระตือรือร้นที่จะตอบอีเมลเร็วเท่าไหร่จะยิ่งไปกระตุ้นการตอบอีเมลกลับมาและทำให้เราดูเป็นคนที่สามารถพึ่งพาได้และจะมีคน/อีเมลมาอีกมากมาย

การเคลียร์อีเมลคือเหตุผลที่ทำให้อีเมลของเรามีมากขึ้นเรียกเหตุการณ์แบบนี้ว่ากับดักของความมีประสิทธิภาพ


8. จงปฏิเสธที่จะพยายามเคลียร์ทุกอย่างและมุ่งไปยังสิ่งที่มีผลกระทบมากที่สุด


9. การที่ตัดสินใจทำอะไรบางอย่างนั่นคือการสละทางเลือกอื่นๆมากมายโดยอัติโนมัติ

เปลี่ยนจากคำว่าเราต้องเลือก’ เป็นเรามีโอกาสได้เลือก’ สิ่งต่างๆจากมุมมองที่มี เลือกชีวิตที่มีความหมายแต่นั่นคือทางเดียวที่มนุษย์ผู้มีความจำกัดจะใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่


10. เรื่องเล่าจัดการเวลาโดยใส่หินในขวดโหลก่อนและตามด้วยกรวดและทรายตามลำดับความสำคัญของสตีเวนโควีย์ เป็นเรื่องโกหก..เพราะสุดท้ายแล้วหินก้อนใหญ่ที่จะใส่ขวดโหลซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมีมากไปจนล้นขวดโหล


11. มีวิธีทิ้งหินก้อนใหญ่จากข้อที่แล้วคือ 

        หนึ่งจงให้เวลากับตัวเองก่อน

        สองจำกัดชิ้นงานที่เรากำลังทำอยู่ไม่ควรเกินอย่างและไม่ควรเพิ่มรายการเข้ามาจนกว่าจะเสร็จในงาน

        สามอดกลั้นกับสิ่งที่สำคัญปานกลางหรือสิ่งที่สำคัญรองลงมา


12. ถ้าหากว่าเราผัดวันประกันพรุ่งเพราะกังวลว่าจะทำมันได้ไม่ดีพอ

ขอให้สบายใจได้เลย..เพราะถ้าตัดสินจากมาตรฐานจากจินตนาการของเราแล้วเราจะไม่สามารถทำมันได้ดีพอแน่นอนเพราะฉะนั้นก็เริ่มทำสิ่งนั้นเถอะ


13. เรามีข้ออ้างเล็กๆน้อยๆเสมอสำหรับการหันหลังให้กับอะไรก็ตามที่เราทำอยู่เพื่อหลีกหนีจากความรู้สึกไม่พอใจกับงานที่ต้องทำ


14. หากรู้สึกอึดอัดเวลามีสมาธิกับสิ่งที่ให้ความสำคัญอยู่

บอกเลยว่า..เลิกคาดหวังเพราะมันคือสิ่งที่เราต้องเผชิญ เป็นการตระหนักรู้ถึงความอึดอัดที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และหันเหความสนใจไปสู่ความเป็นจริงของสถานการณ์ปัจจุบันให้มากขึ้น


15. กฎของฮอฟสตัดเตอร์บอกไว้ว่าภารกิจที่เราวางแผนไว้จะใช้เวลามากกว่าที่วางแผนไว้เสมอ

วางแผนสิ่งจะทำเผื่อเวลาไว้เท่าเสมอ


16. เมื่อวางแผนก็ล้มเหลวได้อะไรก็เกิดขึ้นได้นี่คือความสำคัญของการเผชิญหน้ากับความไม่แน่นอน

นี่คือเหตุผลว่า..เวลาเหนือการควบคุมสิ่งที่ทำได้คือมุ่งความสนใจไปที่ธุระของเราเป็นสำคัญ


17. เราควรจะปฏิบัติต่อทุกประสบการณ์ด้วยความรู้สึกว่าครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายและไม่มีทางทำมันได้อีก


18. ใช้เวลาพักผ่อนเพื่อพักผ่อนจริงๆไม่ใช่เพื่อพัฒนาตนเองไม่ใช่เพื่อผลิตภาพ

แม้การหยุดพักที่แท้จริงจะทำให้เราอึดอัดแต่มันคือสิ่งจำเป็นที่ควรทำมากที่สุด


19. การให้เวลากับนิยายที่อ่านยากจะกลายเป็นความเพลิดเพลินอย่างเหลือล้น

เพราะนี่คือ..การฝึกในการมองเห็นคุณค่าในการอดทนยืนหยัดและก้าวไปข้างหน้านี่คือตัวอย่างของความอดทนหนึ่งในคุณลักษณะที่จำเป็นและสำคัญที่สุด


20. แนวทางการอดทน ประการคือ 

        หนึ่งทำตัวให้ชินกับการเจอปัญหาเพราะปัญหามีมาเรื่อยๆแน่นอน

        สองยอมรับการเปลี่ยนแปลงช้าๆเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้นคือการยอมหยุดเพื่อพักในแต่ละวันเพื่อให้เราสามารถกลับมาทำอีกได้ครั้งแล้วครั้งเล่า

        สามความเป็นต้นตำรับเป็นอีกขั้วมาจากการเลียนแบบคือการอดทนที่จะลองผิดลองถูกจากวิธีของผู้อื่นและมีการเรียนรู้ใหม่ๆและสั่งสมประสบการณ์ไปเรื่อยๆจนเป็นเอกลักษณ์


21. อายุขัยเฉลี่ยของมนุษย์นั้นสั้นมันเปิดโอกาสให้เรายอมแพ้ในเรื่องที่เราไม่เคยยอมแพ้มาโดยตลอด

คือความพยายามที่จะกลายเป็นคนมีประสิทธิภาพมีความสามารถไม่มีที่สิ้นสุด

เราจะได้ลงมือทำสิ่งที่เป็นไปได้และมีคุณค่าเสียที



~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

ผู้เขียนหนังสือ : Oliver Burkeman

สำนักพิมพ์ Amarin Howto จำนวนหน้า 226 หน้าเล่มที่1/2566

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~


หมายเหตุ : (ผู้เรียบเรียง)เล่มนี้เป็นเล่มที่แปลกใหม่และให้ข้อคิดเรื่องเวลาได้ดีมากครับผมจะยิบมาอ่านอีกหลายรอบเพื่อเพิ่มความเข้าใจ..แน่นอนครับใครเคยอ่านเล่มนี้แล้วชอบอย่างไรแลกเปลี่ยนกันได้ครับ.

แสดงความคิดเห็น

0ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น (0)
ฉันคือพลังงานจลน์ พลวัตเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น..