ถ้านัยของคำว่า ”พ่อ” หมายถึงผู้ชายสักคนที่เรายึดถือเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตผู้เฒ่าแห่งลำน้ำเพชรบุรีนามว่า “ปู่เย็น” คนนี้คงมีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด
ครั้งแรกที่วิถีชีวิตของปู่ปรากฏบนจอโทรทัศน์ผ่านรายการ “คนค้นฅน” เมื่อปี 2548 ปู่ก็กลายเป็นต้นแบบของชีวิตที่คนทั้งประเทศเห็นพ้องต้องกันทันทีว่า…ทั้งน่าอิจฉา...ทั้งน่าเอาอย่าง
น่าอิจฉา…
เพราะปู่มีสิ่งให้ยึดติดอยู่น้อยเหลือเกินนอกจาก “กินให้อิ่มนอนให้อุ่น” แล้วก็ไม่เห็นว่าปู่จะต้องทุกข์ต้องร้อนเรื่องอะไรอีก
น่าเอาอย่าง…
เพราะรูปแบบชีวิตเช่นนี้ไม่เคยทำความเดือดร้อนให้ใคร
นับแต่ภรรยาคู่ยากตายจากคำว่า ”ครอบครัว” ของ “นายเย็น แก้วมะณี” หรือ”ปู่เย็น” ก็หมดความหมายลงและความที่ปู่เป็นหมันจึงไม่มีลูกหลานสืบสายเลือดมีเพียงแต่ลูกบุญธรรมที่เติบโตแยกย้ายไปมีชีวิตของตนเองเมื่อไม่มีบุคคลอันเป็นที่รักร่วมชายคา“บ้าน” ก็หมดความหมายลงไปด้วยปู่จึงตัดสินใจหอบเสื่อหมอนและหิ้วรูปของคนรักลงมาอยู่ในเรืออาศัยแม่น้ำเพชรบุรีช่วยเห่กล่อมให้นอนหลับ
ปู่เย็นรักสันโดษมาแต่ไหนแต่ไรบทบัญญัติของศาสนาอิสลามที่ปู่เย็นนับถือทำให้ปู่กินเขียมอยู่เขียมตกค่ำวางข่ายดักปลาตื่นเช้ามาแกงปลากินปลาเหลือก็หิ้วไปขายได้เงินมาเล็กน้อยปู่ก็เก็บไว้ซื้อพริกซื้อกระเทียมมาแกงปลากินในวันต่อไป
ชีวิตปู่มีตรรกะอยู่เท่านี้…มีก็อิ่มไม่มีก็อดขอใครไม่เป็นกู้เงินไม่เป็นอย่าว่าแต่จะโป้ปดคดโกงใครแต่ถ้าพูดถึงเรื่องน้ำจิตน้ำใจปู่เย็นกลับมีไว้แจกจ่ายใครๆอย่างล้นเหลือปูปลาที่หามาได้ปู่เย็นขายในราคาที่ซื้อหากันได้ทุกคนไม่ว่าจะเป็นเศรษฐีหรือยาจก
”ปันกันกิน” ปู่เย็นบอกเหตุผลที่ขายปลาในราคาถูกเหมือนให้เปล่าไว้สั้นๆเท่านี้ขณะที่โลกหมุนเร็วขึ้นทุกทีผู้คนที่มีแต่คำว่า “กำไร~ ขาดทุน” เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่ารูปแบบการใช้ชีวิตแบบ “แบ่งปันกันไปแต่ไม่เบียดเบียนใคร” เช่นนี้ทำให้หลายคนยกย่องปู่เย็นเป็นต้นแบบของมนุษย์ผู้พอเพียงและเป็นผู้หลุดพ้นจากการเป็นทาสของวัตถุอย่างสิ้นเชิง
หากจะกล่าวว่าผู้คนเคารพและยึดถือปู่เย็นเป็นแบบอย่างเสมอเหมือน ”พ่อ” คนหนึ่งก็คงไม่ใช่เรื่องเกินความจริงแต่อย่างใด
”ดูแต่หอยสิ ไม่มีมือไม่มีตีนมันยังหากินเอง ได้ประสาอะไรกับคน หากินเองไม่ได้ก็อายหอย”
ประโยคนี้ฉายซ้ำไปซ้ำมาพร้อมกับข่าวการจากไปของชายผู้เป็นเจ้าของประโยคแม้จะจากไปในวัย108 ปีแต่หลายคนก็อดคิดไม่ได้ว่าการจากไปของปู่เย็นช่างเร็วจนน่าใจหาย
หลายคนยังคิดถึงยังอยากเห็นยังอยากได้ยิน…รอยยิ้มกว้างอวดฟันฟางที่ไม่เหลือสักซี่เสียงหัวเราะร่ารวมทั้งคำพูดคมๆที่ออกมาจากปากของ ”เฒ่าทรนง” คนนี้
เชื่อเหลือเกินว่ารอยยิ้มเสียงหัวเราะคำพูดดีๆและชีวิตสมถะสันโดษของชายชราที่คนทั้งประเทศเรียกขานอย่างสนิทปากว่าปู่เย็นจะคงอยู่ในความคำนึงของผู้คนเสมอแม้ว่าชีวิตของปู่จะคืนกลับสู่อ้อมกอดของพระอัลลอฮ์อย่างถาวรแล้วก็ตาม
“ไม่ทุรนทุรายกับใครหรอกไม่ลักไม่ขโมยไม่เอาของใครใครรวยก็ช่างเขาเถอะเราได้แค่นี้ก็เอาแค่นี้ไม่ได้ก็ไม่เอา”
– ปู่เย็นแก้วมะณี–
ที่มา : นิตยสาร Secret