อาชีพที่สุดแปลกหมุนเวียนตามฤดูกาลและถือเป็นที่หนึ่งเดียวในประเทศไทยเกือบทุกหลังคาเรือนที่นี่.!
โดยอาชีพที่กล่าวข้างต้นบางคนได้ยินอาจขนลุกขนพองได้แก่อาชีพทำตุ๊กแกปลิงและไส้เดือนตากแห้งส่งขายต่างประเทศอาทิจีนไต้หวันโดยมีคติความเชื่อว่าปรุงเป็นยาชูกำลังซึ่งมีออเดอร์สั่งปีหนึ่งๆนับรวมแล้วกว่า 100 ตัน
ประเทศไทยหนึ่งปีมี 3 ฤดูหมู่บ้านนี้ก็จะมีสินค้าแปลกแปรรูปครบทุกฤดูเช่นกันคือ ฤดูแล้งนำตุ๊กแกมาชำแหละตากแห้งฤดูฝนจะเป็นปลิงตากแห้งส่วนฤดูหนาวก็จะเป็นคิวไส้เดือนตากแห้ง โดยจะมีพ่อค้าคนกลางมาซื้อสต็อกไว้ส่งขายเป็นการสร้างงานสร้างรายได้เงินหมุนเวียนสะพัดปีละกว่า 100 ล้านบาทช่วงฤดูหนาวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ชาวบ้านกว่า 200 ครัวเรือนจะเริ่มนำไส้เดือนมาแปรรูปตากแห้งแต่เดิมชาวบ้านจะออกไปขุดไส้เดือนตามพื้นที่การเกษตรรวมถึงรับซื้อจากชาวบ้านที่นำมาขาย
สถานการณ์โควิดระบาดตั้งแต่ต้นปี 2563 การส่งออกตุ๊กแกปลิงและไส้เดือนตากแห้งพลอยได้รับผลกระทบทำให้รายได้ลดลง แต่ระยะหลังเริ่มผ่อนคลายกฎเหล็กลงมาบ้างทำให้สามารถส่งออกขายได้ ดังนั้นชาวบ้านหลังว่างเว้นจากการทำนาทำไร่จะหันมาทำอาชีพแปลกเสริมกันโดยฤดูหนาวก็แปรรูปไส้เดือนตากแห้ง
นายพศิษเมฆสีหรือเสี่ยต้อมอายุ 60 ปีบ้านเลขที่ 243 หมู่7 บ้านตาลต.นาหว้าอ.นาหว้าจ.นครพนมเปิดเผยกับเพจที่นี่ศรีสงครามว่า
“..ชาวบ้านตาลมีอาชีพแปลกตามฤดูกาลสืบทอดกันมากว่า30 ปีหลังมีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งไปติดต่อกับพ่อค้าชาวจีนและไต้หวันเพื่อจัดหาไส้เดือนปลิงตุ๊กแกแปรรูปส่งขายตามฤดูกาลโดยจะมีทั้งคนในหมู่บ้านออกไปรับซื้อและนำมาแปรรูปเองรวมถึงเป็นพวกนายหน้ารับซื้อไส้เดือนสดมาขายต่อให้ชาวบ้านจัดการแปรรูปโดยไส้เดือนที่นำมาแปรรูปในปัจจุบันมีอยู่2 ชนิดคือ1.ตัวสีแดงคุณลักษณะพิเศษตัวจะหนาและ2.ตัวสีเขียวจะบางกว่าสีแดงซื้อสดๆมากิโลกรัมละ28 บาทไส้เดือนสด100 กิโลกรัมหลังแปรรูปตากแห้งจะเหลือ8-9 กิโลกรัมส่งขายในราคากิโลกรัมละ500 บาทโดยไส้เดือนล็อตนี้ไปรับซื้อจากชาวบ้านในเขตจังหวัดร้อยเอ็ดยโสธรหรืออุบลราชธานีส่วนหน้าฝนจะรับซื้อจากประเทศลาวแต่ตัวจะเล็กและบางกว่า2 ชนิดแรก”
น.ส.เอ๋เล่าต่อว่า
“..จากนั้นจะนำมาผ่านขั้นตอนการแปรรูปที่เคยทำสืบทอดกันมาด้วยการชำแหละเอาดินออกแล้วนำไปแช่ล้างด้วยน้ำเปลือกไม้ประดู่ให้สะอาดก่อนนำไปตากแดดจนแห้งโดยการแปรรูปไส้เดือนต้องลงมือทำตั้งแต่กลางดึกเพื่อให้ทันแดดออกในตอนเช้าบ่ายๆก็เก็บส่งขายได้เลยปีนี้ทางประเทศจีนสั่งออเดอร์มาจำนวน 20 ตัน”
"ชาวบ้านสร้างรายได้เดือนละหลายหมื่นบาทบางครอบครัวขยันทำเงินได้เดือนละเป็นแสนถ้าได้วัตถุดิบทำก่อนฤดูกาลก็สามารถทำเงินได้มากกว่าทุกปี" นายพศิษกล่าว
สำหรับราคาส่งขายพ่อค้าคนกลาง
- ไส้เดือนตากแห้งราคากิโลกรัมละ 450-500 บาทแต่ละปี
- ตุ๊กแกแปรรูปราคาตามขนาดประมาณตัวละ 40 -50 บาท
- ส่วนปลิงตากแห้งกิโลกรัมละ 2,000 บาท
แต่ละปีจะมีรายได้หมุนเวียนจากอาชีพแปลกไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาทครอบครัวผู้ประกอบอาชีพแปลกเหล่านี้จึงสามารถทำเงินได้เดือนละ 40,000 – 50,000 บาทซึ่งหลังจากเกิดวิกฤตโควิดชาวบ้านอาชีพแปลกบางรายแบกภาระหนี้สินต้องหาอาชีพอื่นมาชดเชยเป็นการประทังไปพลางก่อน
นายพศิษหรือเสี่ยต้อมกล่าวเพิ่มเติมว่า
“..ไส้เดือนดินหรือไส้เดือนรากดินหรือโท้วเล้งตี่เล้ง(จีน-แต้จิ๋ว) มีหลักฐานปรากฏเป็นที่แน่ชัดว่าการใช้ไส้เดือนเป็นสมุนไพรนั้นได้เริ่มขึ้นมาตั้งแต่ในปีพ.ศ.1833 หรือกว่า 700 ปีผ่านมาหมอโบราณทั้งในประเทศอินเดียและพม่าได้ใช้ไส้เดือนรักษาโรคหลายชนิดเช่นชาวพม่าใช้ไส้เดือนรักษาโรคที่มีชื่อเป็นภาษาพม่าว่าเยเซคุนเปียวซึ่งมีอาการที่น่าจะเป็นโรคหนองไหลโดยนำไส้เดือนไปอบในหม้อดินที่ปิดฝาสนิทจนกระทั่งแห้งเป็นเถ้านำเถ้าเหล่านี้ไปใช้เป็นยาสีฟันหรือผสมกับเมล็ดมะขามและหมากลงที่คั่วแล้วเพื่อให้มีรสชาติดีขึ้นแล้วนำไปกิน
สำหรับโรคอีกประเภทหนึ่งซึ่งมีชื่อว่าเมนมามีฟวาโนยีคุนทเวขานนั้นผู้หญิงที่เป็นโรคจะรู้สึกอ่อนเพลียหลังการออกลูกและไม่อาจให้นมลูกกินได้ก็นำไส้เดือนไปต้มในน้ำที่ใส่เกลือและหัวหอมจนสุกแล้วเทน้ำใสลงผสมในอาหารของผู้ป่วย
จากเอกสารที่ฝรั่งเขียนเล่าถึงอาหารพื้นเมืองในประเทศไทยที่ได้จากแมลงและสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลังอื่นๆที่ตีพิมพ์ในประเทศอังกฤษเมื่อพ.ศ.2475 มีข้อความที่ระบุว่า
...ในประเทศพม่าและลาวนั้นได้มีการใช้ไส้เดือนรักษาโรคฝีดาษโดยการนำไส้เดือนไปแช่น้ำแล้วให้คนป่วยอาบน้ำแช่น้ำจากนั้นก็นำไส้เดือนไปคั่วป่นจนเป็นผงผสมกับน้ำมะพร้าวแล้วดื่มยาตำรับนี้ช่วยทำให้การออกฝีดาษเกิดเร็วขึ้นและลดอัตราการตายจากโรคลงเหลือเพียง 1 ใน4..
ส่วนในประเทศอิหร่านถึงกับยกย่องให้ไส้เดือนเป็นยอดสมุนไพรประเภทครอบจักรวาลเพราะรักษาโรคได้สารพัดเช่นนำไปอบแล้วกินกับขนมปังเพื่อช่วยลดขนาดของนิ่วในถุงน้ำดีและช่วยขับก้อนนิ่วออกหรือไม่ก็ตากแห้งแล้วกินเพื่อรักษาอาการเหลืองซีดที่เกิดจากโรคดีซ่านนอกจากนั้นยังอาจอบให้กลายเป็นเถ้าแล้วนำไปผสมกับน้ำมันกุหลาบใช้ทาหัวล้านเพื่อให้ผมงอกดกดำอย่างเดิม
สำหรับในเมืองไทยได้มีการใช้ไส้เดือนเป็นสมุนไพรมาช้านานจนถึงกับมีปรากฏในตำราแพทย์แผนโบราณหลายเล่มดังที่ปรากฏใน“ตำราเภสัชศาสตร์แผนโบราณ” ซึ่งจัดพิมพ์โดยโรงเรียนแพทย์แผนโบราณวัดพระเชตุพนฯเมื่อปี2507 ว่า
“..รากดิน 4 รสเย็นคาวแก้ไขพิษไข้กาฬแก้ร้อนในกระหายน้ำระงับความร้อนแก้ปากเปื่อยแก้ฝีในลำคอแก้ต่อมน้ำลายอักเสบแก้ปวดฝีและหัวลำมะลอกแก้โรคอันเกิดจากกระดูกแก้พิษฝีดาษ”
~~~~~~~~~~~
#ที่นี่บ้านตาล#ที่นี่นาหว้า#ที่นี่นครพนม#อาชีพสุดแปลก#อาชีพปริศนา#ยาอายุวัฒนะ
#ตุ๊กแกแปรรูป#หมู่บ้านสุดแปลกในนครพนม#แปรรูปตุ๊กแก#ปลิงตากแห้ง#ไส้เดือนตากแห้ง
ที่มา: เพจที่นี่ศรีสงคราม