บทความ

EEG (การตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง)

เป็นเครื่องมือทางการแพทย์ ที่ใช้ในการบันทึกกิจกรรมทางไฟฟ้าของสมอง  เครื่องจะวัดและบันทึกแรงกระตุ้นไฟฟ้าที่สร้างโดยเซลล์ประสาทในสมองโดยใช้ขั้วไฟฟ้าที่วางไว้บนหนังศีรษะ EEG  เป็นขั้นตอนที่ไม่รุกรานที่สามารถให้ข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับการทำงานของสมอง และสามารถใช้วินิจฉัยสภาวะทางระบบประสาทต่างๆ เช่น โรคลมบ้าหมู ความผิดปกติของการนอนหลับ และการบาดเจ็บของสมอง โดยทั่วไปเครื่อง EEG  จะประกอบด้วยแอมพลิฟายเออร์ซึ่งขยายสัญญาณไฟฟ้าที่บันทึกโดยอิเล็กโทรด คอมพิวเตอร์ที่จัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล และซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถควบคุมเครื่องและแปลผลได้ อิเล็กโทรดติดอยู่กับหนังศีรษะของผู้ป่วยโดยใช้กาวพิเศษ และสัญญาณจะถูกส่งผ่านสายไฟไปยังเครื่องขยายเสียง ซึ่งจะแปลงสัญญาณเป็นข้อมูลดิจิทัลที่คอมพิวเตอร์สามารถวิเคราะห์ได้ การทำงานของเครื่อง EEG  มีหลายขั้นตอน ขั้นแรก ให้ทำความสะอาดหนังศีรษะของผู้ป่วยเพื่อขจัดน้ำมันหรือสิ่งสกปรกที่อาจรบกวนสัญญาณไฟฟ้า   จากนั้น อิเล็กโทรดจะติดกับหนังศีรษะ โดยปกติจะใช้กาวพิเศษหรือหมวกที่มีอิเล็กโทรดติดไว้ล่วงหน้า จากนั้นผู้ป่วยจะถูกขอให้นอนนิ่งๆ ...

สิ่ง ๓ นี้ มีในโลก(มนุษย์)

สิ่ง  ๓  นี้ มีในโลก ( มนุษย์ ) 1.  สิ่งที่มีคุณประโยชน์โดยส่วนเดียว 2.  สิ่งที่อาจให้โทษ  หากเกินพอดี 3.  สิ่งที่เป็นโทษโดยส่วนเดียว ~~~~~~~~

หลักคำสอนในพระพุทธศาสนา

[ บทโอวาทปาติโมกข์ ] สัพพะปาปัสสะ อะกะระณัง ( การไม่ทำบาปทั้งปวง ) กุสะลัสสูปะสัมปะทา ( การทำกุศลให้ถึงพร้อม ) สะจิตตะปะริโยทะปะนัง ( การชำระจิตของตนให้ขาวรอบ ) เอตัง พุทธานะสาสะนัง ( นี่เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ) ขันตี ปะระมัง ตะโป ตีติกขา ( ขันติ คือความอดกลั้น เป็นธรรมเครื่องเผากิเลสอย่างยิ่ง ) นิพพานัง ปะระมัง วะทันติ พุทธา ( ผู้รู้ทั้งหลาย กล่าวพระนิพพานว่าเป็นธรรมอันยิ่ง ) นะ หิ ปัพพะชิโต ปะรูปะฆาตี ( ผู้กำจัดสัตว์อื่น ไม่ชื่อว่าเป็นบรรพชิต ) ส ะมะโณ โหติ ปะรัง วิเหฐะยันโต ( ผู้ทำลายสัตว์อื่นให้ลำบากอยู่ ไม่ชื่อว่าเป็นสมณะ ) อะนูปะวาโท อะนูปะฆาโต ( การไม่พูดร้าย ,  การไม่ทำร้าย ) ปาติโมกเข จะ สังวะโร ( การสำรวมในปาติโมกข์ ) มัตตัญญุตา จะ ภัตตัสมิง ( ความเป็นผู้รู้ประมาณในการบริโภค ) ปันตัญจะ สะยะนาสะนัง ( การนอน - การนั่ง ในที่อันสงัด ) อะธิจิตเต จะ อาโยโค ( หมั่นประกอบในการทำจิตให้ยิ่ง ) เอตัง พุทธานะสาสะนัง ( นี่เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย )  -  พระพุทธพจน์ - [ ขยายความ ] เมื่อว่าด้วยคำสอนในโอวาทปาติโมกข์ มักถูกกล่าวถึงหลักธรรม 3  อย่าง เพี...

บุญในพระพุทธศาสนา

  บุญ ( บาลี :  ปุญฺญ )  หรือ บุณย์ ( สันสกฤต  :  ปุณฺย )  หมายถึง  ความดี  ความประพฤติชอบทางกายวาจาและใจ เรียกอีกอย่างว่า ‘ กุศล’  ในพระไตรปิฎกมักใช้คำว่า ‘ ปุญฺญ’  ตรงกันข้ามกับคำว่า ’ บาป’  หรือ ’ อปุญฺญ’  แต่ในคัมภีร์ชั้นหลังมักใช้คำว่า บาป มากกว่า  ในอรรถกถากล่าวถึง การเผื่อแผ่บุญไว้ว่าสามารถเผื่อแผ่เพิ่มให้แก่ผู้อื่นได้โดยไม่มีประมาณ  เปรียบได้กับการจุดเทียนส่งต่อไปเรื่อย ๆ  คือผู้จุดก็มีความสว่างอยู่ตามเดิม และความสว่างยังเพิ่มไปอีกกว้างขวางได้ ในพระไตรปิฎก  ขุททกนิกาย  อิติวุตตกะ  ปุญญกิริยาวัตถุสูตร  ระบุวิธีการทำบุญไว้  3  อย่าง เรียกว่า ‘ บุญกิริยาวัตถุ’  ได้แก่   ทานมัย  ด้วยการให้   ศีลมัย  ด้วยการรักษาศีล  หรือประพฤติดี มีระเบียบวินัย   ภาวนามัย  ด้วยการเจริญภาวนา  คือฝึกอบรมจิตใจ   คัมภีร์สุมังคลวิลาสินี  อรรถกถาสังคีติสูตร  ขยายความเพิ่มอีก  7  ประการ  จึงรวมเป็น บุญกิริยาวัตถุ  10  ไ...

วิธีลดความเครียดอย่างได้ผลสำหรับทุกคน

ความเครียด เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันที่หลีกเลี่ยงไม่ได้  แต่มีหลายวิธีในการจัดการความเครียดอย่างมีประสิทธิภาพ ต่อไปนี้ เป็นวิธีการที่สามารถช่วยลดความเครียดสำหรับคนทุกวัยได้ : การออกกำลังกาย :  การออกกำลังกายเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการลดความเครียด เพราะจะช่วยหลั่งสารเอ็นโดรฟิน ซึ่งเป็นสารกระตุ้นอารมณ์ตามธรรมชาติ การออกกำลังกายใดๆ เช่น เดิน วิ่ง โยคะ หรือว่ายน้ำ ล้วนมีประโยชน์ เทคนิคการผ่อนคลาย :  เทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การหายใจลึกๆ การทำสมาธิ หรือการแสดงภาพสามารถช่วยให้จิตใจและร่างกายสงบลงได้ การฝึกเทคนิคการผ่อนคลายเป็นประจำ สามารถลดระดับความเครียดโดยรวมและทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้ การจัดการเวลา :  การเรียนรู้ที่จะจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถลดความเครียดได้โดยการลดความรู้สึกที่ถูกครอบงำด้วยความรับผิดชอบมากเกินไป การจัดลำดับความสำคัญของงาน การมอบหมายความรับผิดชอบ และการหยุดพักเป็นประจำสามารถช่วยให้จัดการเวลาได้ดีขึ้น สติ :  การฝึกสติหมายถึง การอยู่กับปัจจุบันและให้ความสนใจกับความคิดความรู้สึก และความรู้สึกโดยไม่ตัดสิน การฝึกสติ เช่น การทำสมาธิ...

งานศพคนเป็น (ลิฟวิ่ง ฟิวเนอรัล)

  " ตาย " อย่างมีค่าเป็นอย่างไร ?  เสียง เพลง ...  เสียงร้องไห้ ...  ถ้อยคำสรรเสริญ อ้อมกอดของผู้คนที่มีหัวอกเดียวกัน ไม่ได้ทำให้ งานศพของ เดวิด เซิ่ง แตกต่างจากพิธีศพทั่วไปในไต้หวัน ความแตกต่างที่โดดเด่นเป็นพิเศษเพียงอย่างเดียวก็คือ เดวิดเป็นเจ้าของงานศพ ที่ยังมีลมหายใจอยู่ .!!!  แล้วเขาจัด " งานศพ "  ของตัวเองขึ้นมาทำไม ?   เดวิด หนุ่มฉกรรจ์วัย 25  บอกกับนักข่าวเอเอฟพีในกรุงไทเปว่า   ".. ผมไม่รู้เลยว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกกี่วัน ผมจึงอยากจะจัดพิธีศพให้ตัวเอง เพื่อประกาศความปรารถนาครั้งสุดท้ายที่ผมอยากบริจาคร่างกายให้โรงพยาบาล เพื่อเป็นประโยชน์ทางการแพทย์ " - หนุ่มน้อยซึ่งกำลังป่วยหนักจากโรคร้ายที่ไม่มีทางรักษา และทำให้เขาเป็นอัมพาตตั้งแต่ยังเด็กจากกล้ามเนื้ออ่อนแรง และทำให้ทุกวันนี้เขาต้องนั่งหายใจรวยรินอยู่บนรถเข็นบอก ทั้งนี้ ในเอเอฟพีเล่าว่า “ ลิฟวิ่ง ฟิวเนอรัล ”  หรือ “ งานศพคนเป็น ”  อย่างเช่นเดวิด กำลังได้รับการตอบรับมากขึ้นเรื่อยๆ จากผู้คนที่ป่วยหนัก สำหรับเดวิด ชายชาวเมืองเกาเสียง เขาได้จัดพิธีศพขึ้นเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่...