พระเอ็ดยง—หัสเดียมคดี ของคุณสุวรรณวรรณกรรมคำผวนที่-ชกต่ำกว่าเข็มขัด- ชนิดอ่านไประแวงไป
พระเอ็ดยง—หัสเดียมคดีของคุณสุวรรณกวีสตรีราชนิกุลบางช้างมีชื่ออยู่ในทำเนียบกวีในช่วงสมัยรัชกาลที่3 ต่อรัชกาลที่4 จากเกร็ดชีวประวัติระบุว่าเสียจริตในสมัยรัชกาลที่4 วรรณกรรมของคุณสุวรรณจึงถูกคนรุ่นก่อนมองว่าเป็นงานนอกระบบหรือเป็นกวีนิพนธ์ของคนบ้าแต่ในปัจจุบันนี้วรรณกรรมของคุณสุวรรณได้รับการยอมรับว่าเป็นผลงานสร้างสรรค์ซึ่งแสดงอัจฉริยภาพของผู้แต่งที่สามารถเขียนหัสคดีในเชิงเสียดสีล้อเลียนได้อย่างดียิ่ง
วรรณกรรมเหล่านั้น(เท่าที่ได้รับการเผยแพร่) ได้แก่บทละครเรื่องพระมะเหลเถไถอุณรุทร้อยเรื่องและกลอนเพลงยาวพระอาการประชวรของกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพแต่ยังมีผลงานวรรณกรรมหัสคดีอีกชิ้นหนึ่งซึ่งยังไม่เคยได้รับการเปิดเผยแม้แต่เพียงชื่อเรื่องก็ยังคงปกปิดตลอดมาเพราะออกจะอาการหนักกว่าพระมะเหลเถไถและอุณรุทร้อยเรื่องที่เคยถูกมองว่าเป็นวรรณกรรมคนบ้ารวมกันเสียอีก
ตามที่สุจิตต์วงษ์เทศได้เขียนคำอธิบายบทละครของคุณสุวรรณในหนังสือ“เสียดสีกวีสยามฯ” ว่า“แน่ใจได้ว่ากวีหญิงผู้นี้คงจะได้ผลิตผลงานไว้ไม่น้อยเสียแต่หาต้นฉบับกันไม่เจอ” นั้นความจริงแล้วต้นฉบับนั้นหาพบแต่หลบเร้นต้นฉบับงานของคุณสุวรรณที่ถูกหมกไว้นั่นคือกลอนบทละครเรื่อง“พระเอ็ดยง”
ที่กล่าวว่าถูกหมกนั้นเพราะว่าบทละครเรื่องพระเอ็ดยงถูกบันทึกไว้ในหนังสือสมุดไทยเลขที่1 มัดที่42 หมวดกลอนบทละครณหอสมุดแห่งชาติซึ่งในเล่มมีบทละครเรื่องพระมะเหลเถไถและอุณรุทร้อยเรื่องรวมอยู่ด้วยทั้งยังมีบันทึกหน้าหนังสือสมุดไทยบอกชื่อบทละครทั้ง3 เรื่องไว้ด้วยจึงเป็นไปไม่ได้ว่าจะไม่ได้รับการเผยแพร่เพราะยังไม่พบต้นฉบับ
ส่วนหากจะสงสัยว่าอาจจะไม่ใช่ผลงานของคุณสุวรรณในหน้าต้นหนังสือสมุดไทยมีข้อความระบุไว้ว่าเป็นบทละครของคุณสุวรรณและเมื่อพิเคราะห์ดูถ้อยคำสำนวนลีลาการประพันธ์ก็เห็นว่าน่าจะเป็นของคุณสุวรรณจริง
“พระเอ็ดยง” เป็นวรรณกรรมคำผวนของคุณสุวรรณซึ่งมีกลวิธีการประพันธ์โดยใช้คำผวนตั้งแต่ชื่อเรื่องชื่อตัวละครชื่อเมืองไปจนถึงเรื่องราวต่างๆคำผวนที่ใช้ก็ล้วนแต่เป็นคำที่ลี้ลับทำนองเดียวกับ“สรรพลี้หวน” ของชาวใต้แสดงให้เห็นถึงทั้ง“อารมณ์ขัน” และ“อารมณ์คัน” ของผู้แต่งบางบทบางตอนค่อนข้างโป๊และออกจะหยาบคายไปบ้างคำผวนเหล่านั้นหลายแห่งมิได้เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้นเลย
ลองมาดูเนื้อเรื่องและลีลาโวหารของคุณสุวรรณในพระเอ็ดยงซึ่งครั้งนี้คุณสุวรรณ“ชกต่ำกว่าเข็มขัด” กันดูท่านอาจผวนคำได้ตามอัธยาศัยแต่หากระคายหูหรือบาดอารมณ์ประการใดโปรดรำลึกไว้ด้วยว่าเป็นผลงานของคุณสุวรรณไม่ใช่ของผู้เขียน…
..เรื่องย่อเริ่มตั้งแต่พระเอ็ดยงมีพระมเหสีอยู่ก่อนแล้ว2 องค์คือนางแหงดีและนางแต่งแวดพระเอ็ดยงไปเลียบเมืองได้นางโหตีมาเป็นมเหสีสร้างความไม่พอใจให้แก่โลตึง(เนื้อเรื่องไม่ได้ระบุไว้ว่าเป็นใคร) จึงขับพระเอ็ดยงและมเหสีทั้งสามออกจากเมืองขณะเดินทางไปกลางป่าก็ได้พบกับนายเจ็ดโยนเป็นโจรป่ามีสมุนห้าร้อยคนนายเจ็ดโยนพาสมุนมาสวามิภักดิ์กับพระเอ็ดยงพระเอ็ดยงจึงนำทัพเหล่าโจรป่าไปตีเมืองขีหัน(คีหัน)บุรีเพื่อแก้แค้นโลตึงเนื้อเรื่องจบเพียงพระเอ็ดยงไปตั้งค่ายหน้าเมืองขีหัน..
พระเอ็ดยงถูกขับจากเมือง
◉เมื่อนั้นไทยอก(หมายถึงพระเอ็ดยง– ผู้เขียน) โศกาน้ำตาไหล
ให้คิดอัดอั้นตันใจ
เพราะโหตีศรีใสมาเป็นเมีย
เขาคิดว่าเราจะเจ็ดยับ
จึงใจให้ขับเราเสีย
อกใจให้ร้อนดังไฟเลีย
ไทยอก…* แล้วคลาไคลฯ
◉เมื่อนั้น นวลนางแหงดีศรีใส
ทั้งนางแตงแวดทรามวัย
ก็…* นายรักหัวบานรำคาญใจ
เคยสนิทชิดไชมาหนักหนา
สี่คนก่นกินแต่น้ำตา
ก็กีเหาเข้าป่าพนาลี
มาถึงคูรอบขอบเมือง
ชำเลืองเหลียวดูปราสาทศรี
เคยอยู่เกศเนตรยังทั้งตาปี
ได้ดีหมสมศรีด้วยนางใน
ครั้งนี้มีกรรมจะจำจาก
จะลำบากยากเด็ดเป็นไฉน
ระหกระเหินเดินป่าพนาไล
จะตากแดดแอดไตทุกเวลา
คิดพลางพระนางรำไห
กอกะดำทำใจเป็นหนักหนา
ข้ามทุ่งมุ่งตรงกรงมา
เสด็จโดยมรคาพนาไล
เข้าในป่าระหงดงย่อ
สมีหอกอกะดุมพุ่มไสว
มะกอกโทนโคนจวยกรวยไกร
ใบยักกวักไกวไปมา
ทั้งกล้วยไข่กล้วยขอมหอมดี
บางแหงวีปลีห้อยกลาดป่า
พลับพลวงมะม่วงหรอยห้อยระย้า
น้อยหน่า…* ถึงคอมยวย
ลิ้นจี่หอมะกอดอกมะกอกทัก
…* สละสลวย
ยอกะดักหักทบตะขบอวย
มังคุดลวยมหาคดีมีในดง
กถินดอกออกทกดกระดาด
พุทชีชาดสร้อยฟ้ากาหลง
พิกุลเจ้าจำปีหาจำปาดง
หอมประทิ่นกลิ่นทรงรำจวนใจ
* ข้อความจากต้นฉบับไม่ชัดเจน
ชมสัตว์
พระชวนชมฝูงสัตว์จตุบาท
เกลื่อนกลาดตามแถวแนวป่า
แรดตูมูเรนเม่นม้า
เที่ยวเล็มล่าหากินที่กลางไพร
ตุ่นแลดแตดทอกออกโผน
มีเห็นเต้นโจนทะลวงไล่
โคตวยพาฝูงคลาไคล
บ้างแยดตอนนอนในพนาวัน
เสือกบาทหมอบฟุบตระครุบกัด
คยีหัดหูปีทำรีหัน
รอกโทนโจนไม้ไล่กัดกัน
รอกทุนสุดหันเข้าโพรงใน
ปากสิหงทรงเสียงสำเนียงจอ
โนรีหูชูคอจับยางใหญ่
เห็นแรงดูหูรีก็หนีไป
นกออกไทจับชงักเสียงกักบิน
นกอีแหนแอ่นหางพลางไซ้ขน
เป็ดยนเที่ยวท่องกระแสสินธุ์
ใน…* ค้นหาฟักกิน
น้ำใสไหลรินเห็นตัวปลา
ก็ดีหอนยอนเกลดสเบดยาย
กระบอกเทาเคล้าไวเที่ยวเล็มล่า
ดุกลอคลอไวไคลไคลมา
ปากเดิดแทกถากระโดดดำ
มีทั้งหอยกระจีรีษีลาก
เต่าแนดปลาแรกตากกะโดงคว่ำ
ผักบุ้งพุ่งย้อยลงลอยน้ำ
ระทวยยอดทอดลำอำไพ
มีทั้งบอนสลักผักนอก
บัวรอบตักฟักดอกออกไสว
พระยอดเม็ดเด็ดฝักหักไป
ประทานให้นิ่มน้องสองอนงค์
* ข้อความจากต้นฉบับไม่ชัดเจน
และก็เช่นเดียวกับธรรมเนียมนิยมกลอนบทละครบทละครทั่วไปย่อมมีบททรงเครื่องและบทจัดทัพในเรื่องนี้ก็เช่นกันคุณสุวรรณกำหนดให้พระเอ็ดยงทรงภูษาที่พิลึกพิลั่นอาทิ“ทองกรตอนแมดแปดคู่” และแน่นอนสัตว์ซึ่งเป็นพาหนะย่อมจะไม่ธรรมดาเพราะคุณสุวรรณเกณฑ์ให้พระเอ็ดยง“เสด็จไปทรงแรดแปดตา” ซึ่งมีลักษณะดังนี้
◉แรดเอยแรดตู ขากางหางทูหูลี่
ขุกตัวหัวดางหางดี ขยอกทีตีหำทำพยศ
เจดยอดลองเชิงเริงร้อง กึกก้องอรัญวาปรากฏ
เคยรุกรานกะดานย่อไม่ท้อทด แกล้วกล้าสาหสพยดเมด
ข้อความข้างต้นซึ่งคัดลอกมานี้นับว่าเป็นตอนที่“เบา” อย่างที่สุดแล้วในพระเอ็ดยงถ้าหากว่าโลกแห่งบรรณพิภพนี้มีที่ให้กับ“สรรพลี้หวน” แล้วก็น่าจะสามารถมีที่ให้กับพระเอ็ดยงได้เช่นกัน
ทั้งนี้เพียงเพื่อแจ้งว่า“มีอยู่” มิใช่เพื่อหวังจะได้รับการชื่นชมยกย่องหากแต่เพียงเพื่อให้ได้รับการยอมรับว่า“พระเอ็ดยง” เป็นวรรณกรรมเรื่องหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นแล้วในบรรณพิภพและมีอยู่จริงซึ่งไม่น่าจะเป็นเรื่องร้ายแรงอะไรหากจะยอมรับเพียงข้อมูลว่าคุณสุวรรณยังมีผลงานกลอนบทละครอีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องพระเอ็ดยงซึ่งแต่งด้วยคําผวนที่ไม่สุภาพเรียบร้อยคิดว่านักวิชาการน่าจะรับได้ว่าเป็นมิติหนึ่งทางการศึกษาในแวดวงวรรณกรรมเช่นเดียวกับที่ยอมรับความมีอยู่ของสรรพลี้หวนมาแล้วและจะเป็นไปได้หรือไม่ว่าเพราะหัสเดียมคดีเรื่องพระเอ็ดยงนี้เองที่ทําให้พระมะเหลเถไถและอุณรุทร้อยเรื่องถูกมองว่าเป็นวรรณกรรมของคนบ้าซึ่งแต่งขึ้นเมื่อเสียจริตแล้ว.
ที่มาภาพ: จิตรกรรมเชิงสังวาสที่วัดตะคุจังหวัดนครราชสีมา
ผู้เขียน: ชูดาว
~~~~~~~~~~