พระพุทธเจ้ามีวิธีการสอนให้ผู้เรียนได้รู้แจ้งเห็นจริง โดยอาศัยวิธีการต่างๆหลากหลายให้เหมาะกับจริตนิสัยของแต่ละคนพระองค์สามารถยกเอาธรรมชาติใกล้ตัวมาเป็นสื่อในการสอนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
เมื่อได้ทอดพระเนตรเห็นวัสดุสิ่งของบุคคลหรือเหตุการณ์เฉพาะหน้าบางอย่างที่จะเป็นประโยชน์ในการสอนพระพุทธองค์จะทรงหยิบยกเอาขึ้นมาเป็นเครื่องมือในการสอนพระธรรมทันทีแสดงว่าพระองค์ทรงเห็นคุณค่าของสิ่งที่เรียกว่า "โสตทัศนูปกรณ์(Audio visual aids)" และแสดงให้เห็นว่าการสอนของพระองค์เป็นงานประจำที่ไม่เลือกเวลาและสถานที่หากจะต้องสอดทุกโอกาสที่พอจะสอนได้
คราวหนึ่งพระพุทธองค์ประทับอยู่ณที่แห่งหนึ่งบนฝั่งแม่น้ำคงคาได้ทอดพระเนตรเห็นท่อนไม้ใหญ่ท่อนหนึ่งถูกกระแสน้ำพัดเข้ามาใกล้ฝั่งพระพุทธองค์ได้ทรงชี้ให้ภิกษุทังหลายดูท่อนไม้นั้นแล้วตรัสสอนว่า
"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ถ้าท่อนไม้จะไม่เข้ามาสู่ฝั่งนี้หรือฝั่งโน้นจักไม่จมเสียในท่ามกลางจักไม่เกยบกไม่ถูกมนุษย์หรืออมนุษย์จับเอาไว้ไม่ถูกน้ำวนๆไว้
จักไม่เน่าภายใน...ท่อนไม้นั้นจะลอยไหลเลื่อนไปถึงสมุทรได้ข้อนั้นเพราะเหตุไร? เพราะเหตุว่ากระแสน้ำแห่งแม่น้ำคงคาลุ่มลาดไหลไปสู่สมุทรฉันใด
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ถ้าท่านทั้งหลายจักไม่แวะเข้าฝั่งข้างนี้หรือฝั่งข้างโน้นไม่จมลงในท่ามกลาง... จักไม่เป็นผู้เสียในภายใน...ท่านทั้งหลายจะโน้มน้อมเอียงไปสู่นิพพานข้อนั้นเพราะอะไร? เพราะเหตุว่าสัมมาทิฐิย่อมโน้มน้อมเอียงโอนไปสู่นิพพานก็ฉันนั้นเหมือนกัน...."
แหล่งข้อมูล:
วิธีสอนของพระพุทธเจ้า. กรุงเทพมหานคร: กมลการพิมพ์, 2526 โดยแสงจันทร์งาม